งานที่ต้องใช้แรงทำงานเรียกว่า Active income วันไหนป่วย เข้าโรงบาล หรือหยุดทำก็จะไม่มีรายได้ พูดง่ายๆ คือการใช้แรงโดยตรงเพื่อหาเงิน
(ได้เงินน้อย ลำบากทั้งชีวิตก็ไม่มีทางรวย)

    การใช้แรงไปโพกัสในสิ่งที่จะสร้างเงิน จากนั้นสิ่งนั้นจะสร้างเงินให้เราตลอดชีวิตโดยที่เราไม่ต้องทำงานอีกเลย เรียกว่า Passive income แม้เราป่วย เราเที่ยวต่างประเทศ นอนโรงแรมสุดหรู ขับรถราคาหลักล้าน มีบ้านหลังงามโตๆ ลูกได้เรียนโรงเรียนดีๆ มีเสื้อผ้าราคาแพง เข้าโรงพยาบาลที่การรักษาพยาบาลดีที่สุด ทำบุญแจกจ่ายเงินเท่าไร เงินก็ยังไหลตลอดชีวิตไม่มีวันหมด ใช้เวลาสร้าง 3 ปี หรืออย่างนานสุด 5 ปี แต่ว่าได้ใช้ชีวิตให้คู่ควรกับความเป็นมนุษย์
.
.
แต่ที่วันนี้ คนรวยมีน้อยคนจนมีมาก นั่นเป็นเพราะมนุษย์เลือกที่จะเป็นเอง โดยการกดศักยภาพของตัวเอง ด้วยการคิดลบ ทัศนคติที่แย่ การมองโลกในแง่ร้าย ความเห็นแก่ตัว โลกใบนี้ เขาจึงตอบแทนมนุษย์ในแบบที่มนุษย์เป็นและเลือกเอง เพราะคนรวยเขาไม่ได้รวย จากการเห็นแก่ตัว แต่เกิดจากการที่เขาสร้างคุณค่าและทำประโยชน์แก่โลกใบนี้
.
เพราะฉะนั้นวันนี้เราต้องเลือกว่าเราจะเลือกเป็นคนที่อยู่ในด้านของ active income ไปตลอดชีวิตหรือจะเปลี่ยนมาอยู่ด้าน passive income ดี ฝั่งไหนที่คู่ควรกับเรา แล้วมันคุ้มไหมที่เราจะทำเพื่อให้ได้มันมา
.
และที่ ที่จะสอนคุณได้ดีที่สุดโดยที่คุณไม่ต้องใช้เงินลงทุนเพื่อให้คุณก้าวข้ามจากการที่คุณอยู่ในด้าน active ให้คุณมาอยู่ด้าน passive income คือที่นี่ครับ Droprich group
.
เพราะการเป็นคนที่สำเร็จไม่ใช่แค่ทำเป็นอย่างเดียว แต่ต้องคิดถูก คิดเป็น ทัศนคติต้องถูกต้อง...
.
หลายคนรู้ดีครับว่าการใช้แรงทำงาน รับจ้าง การทำงานประจำ มันไม่ได้ทำให้รวย แต่ทุกคนเลือกที่จะมองข้าม โดยเลือกที่จะเป็นคนที่แก้ปัญหาเฉพาะหน้า มากกว่าการแก้ปัญหาในระยะยาว
.
วันไหนมีปัญหาหนักที่ต้องใช้เงินค่อยวิ่งหาตอนนั้น ลูกเข้าโรงพยาบาลไม่มีเงิน ค่อยไปกู้คนนั้นคนนี้ นั่นคือสาเหตุที่ทำให้คนจนจนลงเรื่อยๆ..
.
เรามาเรียนรู้วิธีการ เพื่อเปลี่ยนฝั่งกันเถอะครับ อย่าทนความลำบาก อย่าทนความยากจนอีกต่อไปเลย
.
เรียนในโรงเรียน 10 - 20 ปี เพียงเพื่อได้ใบๆนึง เรายังสู้ทนเรียนเลย แถมเรียนแล้วไม่ทำให้รวย สอนให้เราไปเป็นลูกจ้าง แต่ที่ที่จะสอนให้เราเป็นคนรวยผมคิดว่ามันคุ้มนะครับ ที่จะเรียน
.
ด้วยรักครับ